พัคมินยอง, อีซึงกิ, ยุนยอจอง กับประเด็นยักยอกเงิน-ถูกเอารัดเอาเปรียบจากต้นสังกัด

ภายหลังจากประเด็นร้อนที่สำนักข่าวประเทศเกาหลีเจ้าใหญ่อย่าง Dispatch ออกมาแฉว่า
อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง นักแสดง และพิธีกรมีชื่อ ไม่ได้รับเงินใดๆก็ตามจากการทำเพลงตลอด 18 ปี
ให้กับสังกัด Hook Entertainment ชาวเน็ตเริ่มขุดค้นถึงอุปสรรคต่อการทำงานของค่ายนี้ และวิจารณ์ถึงความโปร่งใส
สำหรับในการบริหารงาน หลังจากถูกตำรวจไต่สวนข้อหายักยอกและฉ้อโกง
รวมทั้งการกระทำของซีอีโอของบริษัทที่เข้าข่าย “gaslighting” หรือการเอารัดเอาเปรียบอีกฝ่ายด้วยคำพูดและการกระทำ
ที่ไม่มีค่าอีกฝ่าย หรือหลอกลวงอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ

พัคมินยอง

พัคมินยอง (Park Min Young) ดาราสาวในสังกัด Hook Entertainment มีข่าวสารว่า

เคยคบดูใจกับนักธุรกิจเศรษฐีชื่อ “คัง” นอกเหนือจากคุณคังจะเป็นเจ้าของบริษัท Vidente ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท Bithumb Holdings แล้ว
คุณคังยังมีความเกี่ยวพันอันใกล้ชิดกับบริษัท Chorokbaem Media ที่เข้าซื้อกิจการของบริษัท Hook Entertainment
ที่เป็นต้นสังกัดของพัคมินยองอีกด้วย

ช่วงวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS รายงานว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าออฟฟิศของ Hook Entertainment เพื่อหาหลักฐานเสริมเติมสำหรับในการสืบคดี
ยักยอกทรัพย์ของบริษัท และมีแนวโน้มว่า การยักยอกทรัพย์ของบริษัทจะมีความเชื่อมโยงกันกับคุณคัง แฟนเก่าของสาวพัคมินยองด้วย

อีซึงกิ

ทางด้านของ อีซึงกิ สำนักข่าว Dispatch รายงานว่า

เขาจัดแจงทนายความเพื่อเรียกหลักฐานสำหรับในการบริหารงานและรายได้จากการทำงานของเขาอย่างโปร่งใส
เมื่อเขาทราบว่าเขาไม่ได้รายได้ที่น่าจะได้รับจากการทำงานเพลงตลอดระยะเวลา 18 ปี นอกเหนือจากนี้เขายังถูกใช้คำพูด
และอารมณ์รุนแรงจากซีอีโอของบริษัท รวมทั้งพฤติกรรมเข้าข่าย gaslighting จากบริษัทที่มักบอกว่าเขาเป็น “minus singer” หมายถึง
เป็นนักร้องที่ไม่ทำเงิน ไม่ทำกำไรให้กับบริษัท ทำให้บริษัทขาดทุน โดยบริษัทมักบอกเขาว่า เพลงของเขาขายไม่ได้ ไม่สร้างรายได้หรือกำไรให้กับบริษัทนั่นเอง

ยุนยอจอง

วันที่ 17 เดือนพฤศจิกายน ยุนยอจอง (Youn Yuh Jung) ดาราสาวฉายา Meryl Streep ประเทศเกาหลี

ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Minari มีข่าวโคมลอยว่า
เธอจัดแจงออกจาก Hook Entertainment แต่ว่าภายหลังจากข่าวสารออกไปไม่นาน ด้านในวันเดียวกัน Hook ก็รีบชี้แจงเพื่อยืนยัน
ในทันทีว่า สัญญากับยุนยอจองยังไม่หมด และข่าวลือที่ว่า ยุนยอจองจะออกจากบริษัทนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตกล่าวถึงประเด็นพฤติกรรม gaslighting ที่ยุนยอจองอาจเคยพบเจอโดยไม่ทันได้รู้สึกตัวจากบริษัทราวกับที่อีซึงกิเคยโดน
จากคลิปสัมภาษณ์รายการวาไรตี้ของช่อง SBS ในประเด็นที่ว่า เธอไม่รับงานพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์หรูต่าง ๆ โดยเธอกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่รับงานพรีเซนเตอร์ แต่เขา (แบรนด์) ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้ฉันเอง เพราะถ้าคนแก่มาใส่เสื้อผ้าเขา คนคงบอกว่า ‘ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย’ แล้วก็ไม่ยอมซื้อของเขาน่ะสิ ฉันก็เลยซื้อเสื้อผ้าใส่เองทุกชิ้น”

โดยชาวเน็ตกล่าวว่า ประโยคนี้ของเธอเหลือเชื่อมาก ๆ เพราะชื่อเสียงของเธอโด่งดังมาก
จนกระทั่งผู้คนจำนวนมากเปรียบว่าเธอคือ Meryl Streep ประเทศเกาหลี
ได้รับรางวัลออสการ์ และยังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากชาวประเทศเกาหลีอย่างยิ่งจาก Unexpected Journey รายการทีวีที่เธอดำเนินรายการเอง ทำให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ไม่มีทางที่เธอจะไม่ได้รับข้อเสนอให้เป็นพรีเซนเตอร์จากแบรนด์ใด ๆ เลย
และบริษัทอาจกำลังเอารัดเอาเปรียบเธออยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัว

ระหว่างนี้ Hook Entertainment ไม่มีคำแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นถูกต้องสงสัยว่า
ยักยอกทรัพย์ เรื่องรายได้จากงานเพลงของอีซึงกิ รวมทั้งพฤติกรรม gaslighting ต่อดาราในสังกัดที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงแต่อย่างใด

Hook Entertainment มีนักแสดง นักแสดง และเอนเตอร์เทนเนอร์ในสังกัดมากมาย อาทิ อีซุนฮี (ฉายานักร้องแห่งชาติเกาหลี) อีซึงกิ พัคมินยอง ซอบอมจุน อีซอจิน ยุนยอจอง และ ชเวกยูริ

“อีซึงกิ” จัดแจงฟ้องค่าย หลังจากไม่เคยได้เงินจากค่าทำเพลงตลอด 18 ปี

อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง-นักแสดงมีชื่อของเกาหลีใต้ จัดแจงส่งทนายความฟ้องสังกัด Hook Entertainment
หลังจากเรียกร้องหาหลักฐานแสดงรายได้ของเพลงกว่า 137 เพลง 27 อัลบั้ม ตลอด 18 ปีของการเป็นศิลปินของเขา

ช่วงวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน อีซึงกิ เปิดเผยว่า
ได้ยื่นคำเรียกร้องขอหลักฐานแสดงรายได้และรายจ่ายทั้งหมดจากการทำเพลงของเขาตลอดระยะเวลา 18 ปี
สำหรับในการเป็นศิลปินในค่ายเพลง Hook Entertainment หลังจากที่ Hook Entertainment ถูกตำรวจสอบสวนข้อหายักยอก
และฉ้อโกง ช่วงวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ทางด้าน Hook Entertainment ออกมาตอบโต้ว่า ทางสังกัดรับทราบคำเรียกร้องของอีซึงกิแล้ว
ทางค่ายจะพยายามแก้ไขปัญหานี้ไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Dispatch ออกมาเปิดเผยว่า อีซึงกิ ไม่ได้รับเงินที่เป็นรายได้จากการทำเพลงให้กับ Hook Entertainment
เลยสักวอนเดียวตลอดระยะเวลา 18 ปีสำหรับในการเป็นศิลปิน ทั้งที่เป็นเจ้าของผลงานเพลงทั้งหมด 137 เพลงจาก 27 อัลบั้ม

อีซึงกิ มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินตั้งแต่ปี 2004 ที่เขาเดบิวต์ เพลงของเขาถูกใช้เป็นเสียงเรียกเข้า และเสียงรอสายโทรศัพท์ และเพลง background
ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่างสูงในช่วงเวลานั้นอย่าง Cyworld มากมาย
ตั้งแต่ตุลาคม ปี 2009 จนถึงกันยายน ปี 2022 รายได้จากเพลงของอีซึงกิมีมูลค่ามากถึง 9.6 พันล้านวอน หรือราว ๆ 256 ล้านบาทเลยทีเดียว

ในหลักฐานแสดงรายได้จากเพลงของอีซึงกิที่ Dispatch
ได้มา ในช่องที่แสดงรายได้ในช่วงมิถานายน ปี 2004 ถึงสิงหาคม ปี 2009 หายไป ก็เลยทำให้ไม่อาจจะทราบตัวเลขรายได้ที่ชัดเจน
ขณะนั้น ที่อีซึงกิมีเพลงตามที่เป็นที่รู้จักทั่วราชอาณาจักร
อย่าง เพลงBecause You’re My Woman
และ “Delete” ที่ปล่อยมาในปี 2004 เพลง “Please” และ “Hard to Say” ที่ปล่อยในปี 2006 เพลง “I’ll Give You All” และ “Let’s Go on a Vacation” ที่ปล่อยปี 2007 และเพลง “Will You Marry Me” ที่ปล่อยในปี 2009
ตามข้อสัญญาที่อีซึงกิได้เซ็นไว้กับค่าย จริง ๆ แล้วอีซึงกิต้องได้รับเงิน 60% จากยอดจำหน่ายเพลงตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2016 (6.5 พันล้านวอน หรือกว่า 173 ล้านบาท)
และเพิ่มเป็น 70% ในช่วงปี 2017-2022 (2.9 พันล้านวอน หรือกว่า 77 ล้านบาท) หมายความว่าจริง ๆ แล้ว
เขาต้องทำเงินได้ 5.8 พันล้านวอน หรือแทบ 155 ล้านบาท ยังไม่รวมรายได้ 5 ปีที่หายไปในหลักฐานแสดงรายได้ด้วย

นอกเหนือจากนี้ อีซึงกิ ยังมีข้อพิพาทกับซีอีโอของ Hook Entertainment
หลังจากเขาทราบเรื่องจากผู้จัดการของเขาว่า ซีอีโอของ Hook แสดงอารมณ์โมโหหลังจากที่ฝ่ายเขาพยายามเรียกขอหลักฐานการรับรองด้านการจัดการสิทธิ์การใช้งานเพลงของเขาในคอนเทนต์ต่าง ๆ
และทางซีอีโอยังบอกอีกว่า ตัวเขาเองขอเอาชื่อและชีวิตเป็นเดิมพันว่า จะขอฆ่าอีซึงกิแบบไม่ให้พลาดแน่นอน แต่ว่าจนแล้วจนรอดผ่านไปราว ๆ 1 ปี
เขาก็ยังไม่ได้ข้อสรุปจากค่ายต้นสังกัด ทางอีซึงกิก็เลยขอดำเนินเรื่องต่อผ่านกฎหมายและทนายส่วนตัวต่อไป

อีซึงกิ ระบุว่า “มันน่าเสียใจมาก ๆ ที่ผมผู้ทำงานอย่างหนักมาตลอด 37 ปีต้องมาถูกมองอย่างด้อยค่าและถูกด่าเหมือนเด็กมัธยมอายุ 18 ปี ต่อไปผมจะพูดผ่านตัวแทนฝ่ายกฎหมายของผมแทน ขอบคุณสำหรับความเข้าใจ และผู้จัดการคิมของผม รวมถึงผมด้วย ทำงานอย่างหนักเพื่อ Hook มาโดยตลอด ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะกระทำสิ่งเหล่านั้นกับผู้จัดการคิม”

“ผม อีซึงกิ ครอบครัวของอีซึงกิ ผู้จัดการของอีซึงกิ และคนรู้จักของอีซึงกิ ทั้งหมดนี้ถูกเมินเฉยจากซีอีโอควอนจินยองมาโดยตลอด ผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ของผมถูกเมินเฉยอีกต่อไป ถ้าซีอีโอยังกล้าพูดจาหยาบคายหรือข่มขู่ผม นั่นอาจหมายความว่าผมอาจเป็นดาราไม่ได้แล้ว ก็ขอให้เป็นโชคชะตาของผมแต่เพียงผู้เดียว ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มันแย่ไปกว่านี้ ต่อไปนี้กรุณาติดต่อหาผมผ่านทนายของผมด้วย”